ปัญหาที่คนใช้สมาร์ทโฟนส่วนหญ่มักจะเจอกันคงไม่พ้นปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ เพราะถึงแม้ว่าแบรนด์โทรศัพท์ต่างๆ ได้ออกโทรศัพท์รุ่นที่มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์บรรดาผู้ใช้งานโดยเฉพาะคนที่เล่นเกมหรือใช้งานหนักๆ ก็อาจเจอปัญหาแบตหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง วันนี้มีทริคเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้สมาร์ทโฟนของคุณประหยัดแบตเตอรี่จะมีวิธีใดบ้างตามไปดูกันเลย
1 ปร้บความสว่างหน้าจอแบบ Manual
สมาร์โฟนทุกรุ่น จะมีความสามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้ ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะเซตให้ปรับแสงในแบบอัตโนมัติเพื่อปรับแสงให้เข้ากับความสว่างในบริเวณนั้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งจริงๆแล้วการตั้งค่าในแบบนี้จะส่งผลต่อการใช้งานของแบตเตอรี่ในฟังค์ชั่นปรับแสงอัตโนมัติด้วยเช่นกัน และหน้าจอที่ถูกปรับแสงให้สว่างกว่าปกติ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ลงด้วยเช่นกัน ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ควรปรับแสงสว่างหน้าจอเองในระดับที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
2 ตั้งเวลาพักหน้าจอให้เร็วขึ้น
วิธีแก้ไขง่ายๆ และทำได้เองเพียงแค่เข้าไปตั้งค่าเวลาพักหน้าจอให้ไวขึ้นอีกนิด ซึ่งโดยปกติจะถูกตั้งไว้ที่ 1-2 นาที และในระหว่างที่หน้าจอยังเปิดค้างไว้อยู่นั้น Screen หรือหน้าจอจะมีการใช้แบตเตอรี่มากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาแอพทั้งหลาย ในบรรดาแอพ แบตเตอรี่ก็จะยังทำงานอยู่ ลองปรับเปลี่ยนเวลาพักให้เร็วขึ้นเหลือเพียง 15-30 วินาที ก็ช่วยให้แบตเตอรี่ของคุณทำงานได้นานขึ้นแล้ว
3 ปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน
ฟังก์ชั่นต่างๆในสมาร์ทโฟนที่ถึงแม้จะไม่ได้ใช้งานแต่หากมีการเปิดไว้ก็จะส่งผลต่อแบตเตอรี่ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น WiFi , Bluetooth , NFC , GPS โดยเฉพาะ WiFi ที่เรามักจะเปิดทิ้งไว้ถึงแม้จะไม่ได้ใช้งาน และตัวเครื่องจะทำการค้นหาสัญญาณ เพื่อให้แบตเตอรี่ของเราใช้ได้นานยิ่งขึ้นควรปิดฟังก์ชั่นที่ไม่ได้ใช้ในขณะนั้นๆ จะดีที่สุด
4 ทำความรู้จักกับฟีเจอร์ต่างๆ ในสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช้อยู่
สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันไป แต่ละแบรนด์จะมีฟีเจอร์ การใช้งานที่แตกต่างกัน บางแบรนด์อาจจะมีฟีเจอร์ประหยัดกพลังงานแบตเตอรี่มาให้ เช่น Samsung ซึ่งจะมีฟีเจอร์ Ultra Power Saving Mode มาให้ ซึ่งโหมดนี้จะช่วยลดการทำงานของตัวเครื่อง หรือจะเป็น HTC ที่มีฟีเจอร์ใกล้เคียง Samsung ในโหมดที่ชื่อว่า Extreme Power Saving Mode โดยจะมีความสามารถช่วยลดในการทำงานของตัวเครื่อง เช่นเดียวกับ Samsung ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ผู้ใช้ ควรต้องศึกษากันด้วยว่าแบรนด์ที่ใช้อยู่นั้นมีฟีเจอร์ประหยัดพลังงานอะไรบ้าง
5 ใช้พื้นหลังสีดำกับจอ AMOLED
นอกจากปรับความสว่าง และตั้งเวลาพักหน้าจอแล้วความละเอียดของจอก็สำคัญเช่นกันโดยเฉพาะจอ AMOLED ซึ่งมีความละเอียดสูง ควรตั้งจอเป็นสีดำเพื่อประหยัดพลังงาน แต่หากสมาร์ทโฟนของคุณเป็นจอ LCD ก็หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย
6 เลือกใช้ธีมมืดๆ สำหรับจอ AMOLED
นอกจากการใช้พื้นหลังสีดำกับจอ AMOLED เพื่อช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ควรเลือกใช้ธีมสีดำเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ หากแอพที่ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้แบบมืดๆ ได้ เพื่อช่วยประหยัดพลังงานอีกทางนึง
7 ปิดการซิงค์อัตโนมัติ
ถ้าคุณใช้แอพของ Google เป็นหลัก Google จะมีระบบซิงค์อัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้ หากคุณมีแอพพลิเคชั่นที่ไม่ค่อยได้เข้าไปใช้ ขอแนะนำให้ปิดการซิงค์อัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดการใช้แบตเตอรี่จะดีกว่า
8 เปิดใช้โหมดเครื่องบิน ถึงแม้ไม่ได้อยู่บนเครื่องบิน
การเปิดใช้โหมดเครื่องบินบ้างถึงแม้ว่าจะอยู่บนพื้นดิน บางคนอาจจะไม่คุ้นชินกับโหมดนี้สักเท่าไหร่ แต่หากคุณสังเกตุให้ดีๆ จะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องบินให้คุณเห็นเวลาที่เข้าสู่เมนูการตั้งค่าซึ่งหากคุณเดินทางโดยเครื่องบินมักจะต้องได้ยินพนักงานบนเครื่องแนะนำให้เปิดใช้โหมดเครื่องบินในขณะที่เครื่องกำลัง Take off หรือกำลัง Landing ซึ่งโหมดนี้จะช่วยในการประหยัดการใช้งานของแบตเตอรี่ได้หากคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานใดๆ หรือในขณะกำลังประชุม หรือขณะพักผ่อน
9 เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน
สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟน Android รุ่นตั้งแต่ 6.0 ขึ้นไป จะมีโหมดสำหรับประหยัดพลังงานมาด้วยทุกเครื่องซึ่งจะอยู่แยกต่างหาก และแตกต่างจากฟีเจอร์ข้างต้น โหมดประหยัดพลังงานจะเพียงแค่จำกัดขีดในการทำงาน ลดแสงสว่างลง และปิดการใช้งานแอพพื้นหลังเพียงบางตัว
10 หยุดใช้คำสั่ง OK Google ตลอดเวลา
โดยปกติแล้วแอพ Google Now จะรับฟังคำสั่ง OK Google จากหน้าโฮมสกรีนซึ่งช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ในการฟังคำสั่ง แต่หากคุณเปิดแอพฟังคำสั่งตลอดเวลาโดยที่ไม่อยู่หน้าโฮมสกรีน แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้จะกินพลังงานแบตเตอรี่เป็นจำนวนมาก หากคุณอยากประหยัดแบตเตอรี่ก็ขอแนะนำให้ปิดไว้จะดีที่สุด
11 อัพเดทแอพให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
แอพพลิเคชั่นที่ใช้แต่ละแอพนั้นจำเป็นจะต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องอัพเดทแอพพลิเคชั่นนักพัฒนาซอร์ฟแวร์จะทำการแก้ไขบั๊ก และพัฒนาซอร์ฟแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชั่น การอัพเดทแอพพลิเคชั่นในแต่ละครั้งจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เพื่อให้การอัพเดทแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถเข้าไปตั้งค่า auto-update แอพพลิเคชั่นด้วยตัวเองใน Google Play Store
12 ใช้แอพพลิเคชั่นช่วยประหยัดแบตเตอรี่
ปัจจุบันนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกมามากมายสำหรับช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่มีบางแอพพลิเคชั่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้หยุดการทำงานของแอพพื้นหลังส่งผลต่อการทำงาน และแบตเตอรี่ เช่นแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Greenify จะช่วยระบุแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้งานให้เข้าสู่การพักชั่วคราวหรือที่เรียกกันว่าไฮเบอร์เนตเพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่
13 ใช้ประโยชน์ของ Doze ใน Android 6.0
สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ Android 6.0 Google ได้เพิ่มระบบ Doze เพื่อช่วยให้การประหยัดพลังงานมีประสิทธิภาพเพิ่มระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น โดยในขณะที่เรานอนหลับพักผ่อนตัวเครื่องก็จะหลับไปด้วยโดยจะเข้าสู่ Doze Mode อัตโนมัติ แต่จะยังสามารถได้รับการแจ้งเตือนจากแอพสำคัญๆ ในขณะที่อยู่ใน Doze Mode
14 ใช้ Power Bank
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดก็ว่าได้ การพกแบตเตอรี่สำรองไว้ที่จะช่วยให้สมาร์ทโฟนของคุณใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์ที่ผลิตออกมาขายและมีหลากหลายขนาดความจุของแบตเตอรี่ให้เลือกใช้กัน
15 ใช้แบตเตอรี่และเคสช่วยเสริม
สมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่อึดและทน ใช้งานได้นานขึ้นเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต้องการแต่ถ้าสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ก็ควรซื้อแบตเตอรี่สำรองและชาร์จเผื่อไว้สำหรับเปลี่ยนด้วยเลย แต่หากาเป็นเครื่องที่ผลิตมาเป็นแบบแบตเตอรี่บิ้วอินไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ก็มีเคสที่สามารถเป็นแบตเตอรี่สำรองได้ในตัว
และนี่ก็คือเทคนิคดีๆ ที่นำมาฝากทุกท่านให้ลองนำไปใช้กันดูครับ คราวนี้ล่ะการใช้สมาร์ทโฟนของคุณจะก็จะใช้ได้นานขึ้นแน่นอน แต่ถ้าลองทำตามเทคนิคดีๆทั้ง 15 ข้อนี้แล้วแบตเตอรี่ก็ยังหมดเร็ว ผมขอแนะนำให้คุณลองเช็คแบตเตอรี่ดู บางทีอาจจะถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้วก็เป็นได้ครับ
Post a Comment