APPLE AIRTAG
อุปกรณ์สำหรับคนขี้ลืม
Apple ได้เปิดตัว Apple AirTag อุปกรณ์ติดตาม ที่มาเอาใจสำหรับคนขี้ลืมโดยเฉพาะ โดยตัวของ AirTag นั้นมีลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดกระทัดรัด ดีไซน์เก๋ และยังใช้วัสดุสแตนเลสขัดเงา และครอบด้วยฝาพลาสติกขาวซึ่งสามารถถอดออกได้ หากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยทาง Apple การันตีมาว่าแบตเตอรี่ที่ใส่มาในตัว AirTag นั้นสามารถใช้งานได้นานกว่า 1 ปี และเมื่อแบตเตอรี่หมดก็สามารถถอดเปลี่ยนเองได้โดยทางApple ได้ออกแบบมาให้ผู้ใช้สามรถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ โดยตัว iPhone ที่เชื่อมต่อกับAirTag จะบอกให้รู้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว
AirTag ใช้แบตเตอรี่ CR2032 เพียงแค่ 1 ก้อน ซึงเราจะทราบกันดีว่าหากทำอุปกรณ์แบบนี้ แบตเตอรี่ AA ใช้ 2 ก้อนก็อยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือนแน่นอน เพราะตัวเครื่องต้องส่งสัญญาณอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงยังมีลำโพงในตัวสำหรับใช้ส่งเสียงในขณะที่ทำการกดค้นหา แถมยังสามารถกันน้ำ และฝุ่น ถึงแม้จะโดนฝนหรือตกน้ำก็ไม่เป็นอะไร หากใครที่สั่งซื้อตัว AirTag ผ่านทางเว็บไซต์ของ Apple สามารถสลักชื่อ หรืออิโมจิ หรือจะสลักทั้งสองเลยก็ได้ โดยทาง Apple นั้นไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม
การเชื่อมต่อ และการใช้งาน
การเชื่อมต่อของ AirTag ก็ง่ายและสะดวก เพียงแค่นำไปแตะกับ iPhone หรือ iPad ที่ใช้ iOS 14.5 หรือใหม่กว่านั้น โดยใช้ Apple ID ร่วมกับการลงชื่อเข้าใช้บัญชี iCloud พร้อมกับทำการเปิดคุณสบัติ "ค้นหาของฉัน" เพียงเท่านี้ก็จะทำการเชือมต่อกันทันที รวมไปถึงยังสามารถตั้งชื่อให้กับ AirTag แล้วนำไปติดไว้กับสิ่งของที่คุณอยากติดตาม เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถติดตาม AirTag บน Apple Watch ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเอาใจคนขี้ลืมกันแบบไม่จำเป็นต้องจำกันเลยทีเดียว
- ชิป U1 อัลตร้าไวด์แบนด์ ที่จะบอก "ตำแหน่งที่ตั้งจริง" ใน iphone 11 และ iPhone 12 สามารถบอกระยะห่างรวมถึงทิศทางไปยัง AirTag ที่กำลังหาอยู่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยการค้นหานั้นจะใช้้อมูลที่ไ้ด้จากทั้งกล้อง ARKit, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว รวมไปถึงไจโรสโคป เพื่อให้ไปยังตำแหน่งของ AirTag ได้จากการใช้ทั้งเสียง การสั่น และการใช้ภาพเพื่อนำทาง
- Bluetooth LE เมื่อAirTag นั้นอยู่นอกระยะของ Bluetooth เครือข่ายแอพ Find My หรือค้นหาของฉัน โดยอาศัยอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่นๆในเครือข่ายแอพ Find My ในการตรวจจับสัญญาณ Bluetooth จาก AirTag ที่หายออกจากระยะแล้วทำการส่งต่อตำแหน่งที่ตั้งกลับไปยังเจ้าของได้
- ใช้เทคโนโลยี NFC ในโหมดสูญหาย หรือ Lost Mode ซึ่งหากบุคคลอื่นหา AirTag ของคุณเจอ ก็สามารถใช้ iPhone หรืออุปกรณ์อื่น ที่รองรับ NFC แตะที่ AirTag อันนัั้นเพื่อเชื่อมต่อเข้าไปยังเว็บไซต์ที่แสดงหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อกับเจ้าของ หากเจ้าของได้ทำการระบุเอาไว้
- ตัวของ AirTag มีคุณสมบัติในการ ช่ยการเข้าถึง ซึ่งมาพร้อมกับ iOS เช่น คุณสมบัติ ตำแปน่งที่ตั้งจริงที่ผู้ใช้สามารถใช้ VoiceOver ในการนำทางผู้ใช้ที่ตาบอด หรือมีปัญหาในการมองเห็นไปยังตำแหน่งของ AirTag ด้วยเสียงพูด
- สามารถทำงานร่วมกับ Siri ได้
- มีการแจ้งเตือนให้ทราบสำหรับการติดตามที่เราไม่ต้องการ
- มีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสููง โดยการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
- ภายในแอพ Find My สามารถตั้งชื่อ หรือเลือกประเภท รวมไปถึสัญลักษรืของ AirTag แต่ละชิ้นในแอพได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแยกชนิดของสิงของนั้นหากทำการเชื่อต่อไว้หลายอัน
- สามารถบอกตำแหน่งได้แม่นยำ ทั้งระยะทาง ทิศทาง ให้ผู้ใช้ทราบในแอพ Find My
สำหรับอุปกรณ์เสริมสำหรับ AirTag นั้น Apple เองก็มีห่วงสำหรับคล้องซึ่งเป็นโพลียูรีเทน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,190 บาท หรือหากชอบแบบหนังก็ยังมีพวงกุยแจหนังให้สาวก Apple ได้เลือกโดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,390 บาท นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว AirTag Hermès ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมสุดหรู อย่างเครื่องประดับสำหรับห้อยกระเป๋า พวงกุญแจ แท็กเดินทาง หรือแม้แต่แท็กกระเป๋าเดินทาง โดยอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ทาง Hermès ที่ได้วางจำหน่ายนั้นจะมาพร้อมกับ AirTag ที่มีการสลักตราสัญลักษณ์พิเศษด้วยเลย เรียกได้ว่าเอาใจสาวก Hermès และ Apple กันน่าดูเลยทีเดียว
ราคา AirTag ที่วางขาย
ในส่วนของราคานั้น ทาง Apple ได้วางจำหน่ายในราคาชิ้นละ 990 บาท ต่อหนึ่งชิ้น ส่วนราคาซื้อแบบแพค 4 ชิ้นนั้นจะอยู่ที่ 3,390 บาท โดยสิ่งที่มาภายในกล่องจะมีเพียง AirTag เท่านั้น
คงจะถูกใจใครหลายๆ ที่มักจะลืมและทำของหาย หรือมักจะหาของไม่เจออยู่เป็นประจำ ขอแนะนำให้ซื้อ AirTag อุปกรณ์สำหรับคนขี้ลืม มาติดไว้กับสิ่งของไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า พวงกุญแจ หรืออะไรก็ตามที่มักจะหาไม่เจอหรือวางลืมเอาไว้เป็นประจำประจำ แบบนี้เรียกได้ว่าลืมว่าเคยขี้ลืมไปได้เลยทีเดียว
Post a Comment